วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ข้อมูลสำคัญของนักเล่นปืนมือใหม่

Kimber Desert Warrior 11มม.แห่งยุทธภูมิทะเลทราย



อาวุธปืนคืออะไร ในความหมายของกฎหมาย
คำจำกัดความของอาวุธปืนตามมาตรา 4 (1) มีดังต่อไปนี้

1.อาวุธที่ประกอบด้วยลำกล้องที่ทำด้วยโลหะที่ทนทานต่อความร้อนและแรงระเบิดของดิน ปืนที่อัดยัดเข้าไปในกระบอกปืนหรือแม็กนั่มหรือลูกซองที่เข้าไปซุกตัวใน รังเพลิงมีเครื่องจุดชนวนดินระเบิดหรือเครื่องลั่นไกสำหรับให้ดินปืนในลำกล้องระเบิดขึ้นและสุดท้ายมีกระสุนเหล็กหรือตะกั่วสำหรับถูกขับออก
จากลำกล้องด้วยแรงระเบิดนั้น

2. ปืนที่ยิงด้วยการอาศัยพลังงานอย่างอื่นนอกจากดินดำ เช่นปืนอัดลม อัดแก๊ส ก็จัดเป็นอาวุธปืน

3. ส่วนประกอบหลักของอาวุธปืนก็ถือว่าเป็นอาวุธปืนเช่นกัน ตามที่รัฐมนตรีมหาดไทยกำหนดไว้ในกฎกระทรวง ดังนี้ ลำกล้องลูกเลื่อน หรือ ส่วนประกอบสำคัญในเครื่องลูกเลื่อน เครื่องลั่นไก เช่น เข็มแทงชนวน นกสับ ไกปืน ซองกระสุน อันได้แก่ แม็กกาซีน สำหรับปืนออโตเมติกและลูกโม่สำหรับปืนรีวอลเวอร์ พวกนี้ถือเป็นอาวุธปืนครับ

จาก 3 ข้อที่กล่าวมา หากผู้ใดมีครอบครองไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตถือว่าเป็นความผิด แม้แต่ปลอกกระสุน ลูกกระสุนดินปืน แก็ปจุดระเบิดของดินปืน หากผู้ใดมีไว้ครอบครองก็มีความผิดเช่นกัน




ตามกฎหมายไทย เราแบ่งอาวุธปืนออกเป็น 2 ประเภทใหญ่คือ

1. อาวุธปืนสำหรับเอกชนใช้ โดยอาวุธปืนประเภทนี้ก็คือปืนพกและปืนยาวบางประเภท ที่ทางราชการอนุญาตให้ประชาชนทั่วๆไปอย่างพวกเราๆท่านๆมีไว้ใช้กันได้ จะไว้ป้องกันตัวและทรัพย์สินหรือเพื่อการกีฬาหรือเพื่อเก็บก็ได้ทั้งสิ้น

2. อาวุธปืนสงคราม เป็นปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ โดยมีรายละเอียดดังนี้ คือ ต้องไม่เป็นปืนที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางลำกล้องเกิน 11.44 มม. ไม่สามารถบรรจุกระสุนเองให้ยิงซ้ำได้
(ปืนกล) อาวุธปืนที่กระสุนบรรจุสารเคมี เชื้อโรค เชื้อเพลิง หรือกัมมันตภาพรังสีและที่เก็บเสียงถือว่าเป็นอาวุธสงครามนะครับ ใครจะหามาใช้เหมือนในภาพยนต์ต้องคิดหนักๆ ก่อนครับ


เนื่องจากปืนในบ้านเรามีราคาแพง หลายๆคนก็หันมาคบหากับปืนเถื่อน ซึ่งก็หาไม่ง่ายและก็ไม่ยากเกินไปสำหรับบ้านเมืองนี้แต่คิดให้หนักครับ

ปืนเถื่อน ปืนมีทะเบียน จะมีปืนสักกระบอกทำอย่างไร?

   ปืนเถื่อนเรียกกันง่ายๆก็คือ ปืนไม่มีทะเบียนนั่นเอง ง่ายๆดีไหมปืนอะไรก็ตามที่ไม่มีทะเบียนคือปืนเถื่อนทั้งสิ้นส่วนปืนที่มีทะเบียนนั้นเป็นปืนที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้มี และใช้  (ใบ ป.4) และทำเครื่องหมายประจำปืนไว้ซึ่งผู้ที่ได้รับอนุญาตก็สามารถเก็บไว้ที่บ้านได้ แต่ห้ามเอาไปไหน ถ้าจะพกพาไปก็ต้องมีใบพกพา (ป.12) อีกชั้นหนึ่ง

มาถึงตอนนี้คงจะเริ่มงงกันบ้างแล้ว ว่าไอ้ใบ ป.4 ป.12 มันคืออะไร ผมจะอธิบายให้ฟังครับ เมื่อเพื่อนๆอยากมีปืนสักกระบอกก็ต้องพิจารณาคุณสมบัติตัวเองก่อนครับว่ามีครบดังนี้รึป่าว

1.ไม่เคยต้องโทษจำคุก หรือมีคดีความติดตัว ความจริงกฏหมายเค้าก็แบ่งไว้เยอะครับ ว่าคดีอะไรบ้าง แต่นายทะเบียนประเทศไทยไม่สนครับ มีคดีอะไรก็ตามแทบจะไม่ออกให้เลย ไม่ต้องเถียงแทนนายทะเบียนครับ มันเป็นอย่างนี้จริงๆ

2. ต้องบรรลุนิติภาวะ

3. ไม่มีร่างกายพิการจนไม่สามารถใช้อาวุธปืนได้ (ขอได้กรณีขอไปเพื่อเก็บสะสม)

4. ไม่มีสติฟั่นเฟือน หรือเป็นบุคคลที่ไร้ความสามารถ ทั้งที่ ศาลสั่งและเป็นเอง

5. มีงานมีการทำเป็นหลักแหล่ง

6. มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง โดยต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านท้องที่ที่จะไปขออย่างน้อย 6 เดือน

7. มีเงิน อันนี้สำคัญมากนะครับ สำคัญอย่างไรจะกล่าวต่อไปในภายหลัง

8. มีเส้น อันนี้ก็สำคัญ แต่น้อยกว่าเงิน





การเลือกซื้อปืนกระบอกแรก

การซื้อปืนมาใช้สักกระบอกผมขอแนะนำให้เพื่อนๆได้ศึกษาอย่างละเอียดก่อน โดยพิจารณาดังนี้

1. ดูคุณสมบัติของตัวเองครับว่ามีสิทธิมีปืนในครอบครองไหม

2. ดูเงินครับ ว่ามีอยู่เท่าไหร่ พอจะซื้อปืนอะไรได้บ้าง อยากให้เตรียมไว้อย่างต่ำคือ 5 หมื่นครับ กรณีปืนใหม่สำหรับราคาของปืนที่พอใช้ได้ และถูกที่สุด ก็ประมาณ 4 หมื่นต้นๆ ครับ บวกค่านู่นค่านี่ ก็ 5 หมื่นกว่าๆ แหละครับส่วนพวกปืนแต่งนี่ ไว้ให้เป็นก่อนครับค่อยซื้อ ส่วนปืนมือสองนี่ผมว่าดีนะครับ ราคาถูก
แต่ต้องเลือกดีๆหน่อยเอา ซื้อที่เจ้าของเค้าซื้อไปเก็บไม่ได้เอาแบบว่าเจ้าของซื้อไปยิงคนหรือยิงเป้าซ้อมนะครับ เพระาพวกนี้ลำกล้องปืนจะสึกหรือไม่ก็มีคดีติด

3. ดูมือตัวเองครับว่ามือตัวเองใหญ่ไหม จับปืนได้ขนาดไหน ไม่ใช่ว่ามือเล็กแถมยังบอบบางแบบคุณชาย ที่ไม่เคยผ่านงานหนัก แต่ดันไปอยากได้ .45 หรือ .357 อันนี้ซื้อมาได้ครับ พอจะสู้กันใช้เขวี้ยง
หัวได้ผลกว่ายิง เพราะยิงไปจะโดนน้อยกว่าเขวี้ยงเอาเสียอีก

4. เมื่อได้ปืนที่ถนัดมือแล้ว มาดูเรื่องกระสุนครับ ไอ้กระสุนแปลกๆอย่าซื้อมาครับ พวก .357 ซิก อะไรพวกนี้วันนึงไม่มีกระสุนแล้วจะเสียใจ แต่ได้ข่าวแว่วๆมาว่ากระสุน .40 s&w มม. ประเทศไทยผลิต
เองได้แล้ว คงพอหาง่ายขึ้นแต่ที่แนะนำจริงๆคือ .38 สเปเชี่ยล , 9 มม.พาราเบลรั่ม, .357, 11 มม., .22( ลูกกรด ) แล้วถ้าเป็นลูกซองก็ 12 ครับ นอกจากนี้หากระสุนยาก

5. ถึงตอนนี้เพื่อนคงมีปืนในใจสัก 2-3 กระบอกแล้ว ข้อนี้ถ้าเป็นไปได้อยากให้เพื่อนลองยิงครับ อาจไปยืมคนรู้จักที่มีอยู่มาลองยิงก่อน หรือถ้าซื้อปืนมือสองก็ลองขอเจ้าของเค้ายิงก่อนนะครับ ว่ายิงดีไหม
สะบัดมากไหม อะไรประมาณนี้จะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ถ้าลองไม่ได้ หรือเค้าไม่ให้ลอง ถามเอาก็ยังดีครับ

6. เมื่อได้ปืนที่ถูกใจแล้วก็ไปดำเนินการขออนุญาต ตามขั้นตอนที่แนะนำไปนั่นแหละครับ เมื่อได้เรียบร้อยก็เป็นอันจบพิธีการ




เมื่อได้ปืนมาแล้ว สิ่งที่จำเป็นที่สุดและจะต้องปฏิบัติให้เป็นนิสัย คือ กฎของความปลอดภัย นั่นคือ

1. เมื่อจับปืนทุกครั้งให้พึงระลึกเสมอว่าปืนทุกกระบอกมีกระสุนบรรจุอยู่

2. ตรวจปืนทุกครั้งที่จับว่ามีกระสุนบรรจุอยู่หรือไม่ มีวัสดุใดติดค้างอยู่ในลำกล้องหรือไม่

3. อย่าเล็งปืนไปที่บุคคล สิ่งมีชีวิต หรือสิ่งของมีค่า ถ้าผู้ยิงไม่ต้องการยิง

4. อย่าเล็งปืนไปทางวัสดุอื่นใดที่อาจทำให้หัวกระสุนปืนสะท้อนกลับหรือแฉลบได้ เช่นวัสดุที่มีผิวแบนแข็ง ผิวน้ำ

5. อย่าพูดคุยกับผู้อื่นในขณะยิงปืน

6. อย่าทิ้งปืนที่บรรจุกระสุนปืนไว้ในที่ซึ่งมีบุคคลอื่น โดยเฉพาะเด็กอาจหยิบฉวยเอาไปเล่นได้ง่าย

7. อย่าหันปากกระบอกปืนไปทางด้านข้างหรือด้านหลัง ขณะจับปืนอยู่ในแนวยิง

8. เมื่ออยู่ในห้องฝึกหรือสนามยิงปืนต้องเชื่อฟังและปฏิบัติตามผู้ควบคุมการฝึกอย่างเคร่งครัด

9. ถ้าไม่เก็บปืนไว้ในซองปืน ต้องจับในลักษณะเปิดลูกโม่ หรือให้โครงเลื่อนปืนอยู่ในลักษณะค้างโครงเลื่อนปืนไว้

10. การส่งปืนให้ผู้อื่น ต้องส่งปืนในลักษณะเปิดลูกโม่ หรือให้โครงเลื่อนปืนอยู่ในลักษณะค้างโครงเลื่อนปืนไว้




ข้อห้ามสำหรับผู้สนใจในกีฬายิงปืนหรือนักยิงปืนทั้งหลาย

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบที่ชอบแข่งขันยิงปืนประเภทต้องใช้สมาธิในการปั้นสิบ เช่น ปืนยาวติดกล้องหรือแข่งระบบสากลทั้งหลาย (ไม่รวมเป้าบินและ IPSC) มีหลักป้องกันไม่ให้ล้มเหลวในการแข่งขันอยู่ 10 ประการ ลองอ่านและปฏิบัติดูครับ ถ้าท่านเกิดไปตรงกับข้อหนึ่งข้อใด หลักก็คือ ห้าม ห้าม ห้าม

คุยโม้, อวดเก่ง,เล็งนาน, พาลปืน, ฝืนลม, ชมตัวเอง, ตื่นเต้น, ตกใจ, กระตุกไก, กระพริบตา 

ท่องเป็นกลอนนะครับ จะจำได้ไว้ เพราะคำมันจะสัมผัสกันอยู่แล้ว บางตำราเพิ่มมาอีก 4 ประการได้แก่

เมาถี่, ปวดท้องขี้, หิวข้าว, รองเท้าคับ 

ขออธิบายเพิ่มเติมดังนี้คือ

1. คุยโม้ ก็คือ ยังไม่ทันแข่งก็คุยซะแล้วว่าจะเอาเหรียญนั้น เหรียญนี้ สร้างแรงกดดันให้ตนเองทำไม

2. อวดเก่ง ประมาทคู่แข่งไม่เห็นอยู่ในสายตา ทำให้ขาดความรอบคอบ

3. เล็งนาน เล็งนานเท่าใดปืนก็ส่ายมาก ตามทฤษฎีก็คือ หลังจากกลั้นหายใจแล้วต้องลั่นไกให้ได้ภายใน 7 วินาที ถ้ามากกว่านั้น ต้องวางปืนเริ่มหายใจใหม่

4. พาลปืน ยิงไม่ดีเนื่องจากตนเอง ก็ไปพาลว่า ปืนห่วย ไม่ดี ไม่หันมาพิจารณาตนเอง ทำให้ไม่มั่นใจในอาวุธ

5. ฝืนลม ก็เห็นอยู่แล้วว่าลมพัดแร๊งแรง ยอดไม้ไหวลู่ ก็ยังยิงออกไป มันจะเข้า10 ได้ไง

6. ชมตัวเอง แข่ง 60 นัด ยิง 10 เข้านัดแรก (ฟลุ๊ก) หลงตัวเองแล้วว่าต้องได้ทองแน่ ยังเหลืออีก 59 นัดนะครับ

7. ตื่นเต้น แล้วจะถือปืนนิ่งได้อย่างไร (อันนี้ต้องฝึกนานโดยต้องแข่งมากๆ ๆ ๆ ๆ)

8. ตกใจ เสียงปืนดังแล้วตกใจ หรือตกใจเสียงปืนช่องข้างๆ ก็แย่ซิครับ หาอะไรอุดหูซะ

9. กระตุกไก ยังงี้เข้า 9 ก็บุญแล้ว

10. กระพริบตา ยิงแล้วไม่ follow ศูนย์ แล้วจะเข้า 10 เหรอ

11. เมาถี่ พรุ่งนี้จะแข่ง คืนนี้ยังเมาอยู่เลย อย่ายิงดีกว่าเสียดายกระสุน

12. ปวดท้องขี้ ไม่ต้องอธิบายมาก ยืนยิงไม่ได้หรอกครับ

13. หิวข้าว แล้วเอาแรงที่ไหนมายกปืน

14. รองเท้าคับ มันกัดเท้าแล้ว เป็นอุปสรรคในการยืนยิง





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น